เรื่องร้ายแรง อย่าปล่อยให้ตัวเองนึกเสียใจ หรือเสียดายอนาคต

Starfish Academy
Starfish Academy 50357 views • 3 ปีที่แล้ว
เรื่องร้ายแรง อย่าปล่อยให้ตัวเองนึกเสียใจ หรือเสียดายอนาคต

ข่าวดังทุกวันนี้หนีไม่พ้นการทำร้ายร่างกายของเหล่าวัยรุ่น เพราะความคิดที่ว่า“ไม่เจ็บไม่จบ” แต่บางครั้งเจ็บแล้วแต่ไม่จบก็มีเหมือนกัน เราจะมานำเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายแบบเข้าใจง่าย เตือนใจเหล่าวัยรุ่น ก่อนจบปัญหาด้วยความรุนแรง พร้อมวิธีจัดการกับความโกรธ เพื่อลดปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

ตี ต่อย ตบ ไม่ได้จบแค่ค่าปรับ

เกิดเป็นคนไทย ยังไงเราก็ต้องเข้าใจกฎหมาย หลายคนยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายว่าแค่จ่ายก็จบ เป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งเราขอบอกเลยว่าไม่ใช่ทั้งหมด

ถ้าหากทะเลาะวิวาท ตบตีธรรมดาโดยเป็นแผลรอยถลอก ขีดข่วน รอยช้ำบวม แดง “ไม่เป็นเหตุให้เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ก็อาจเป็นความผิดลหุโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่ารุนแรงเกินกว่าเหตุ ก็อาจจะต้องนอนคุกร่วมกับการเสียค่าปรับได้ 

แต่ถ้าหากการตบตีถึงขั้นเลือดตกยางออก แผลแตก ถือเป็นการทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนาจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ กรณีนี้ประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดต่อร่างกาย หมวด ๒ ความผิดต่อร่างกาย มาตรา 295 ที่ก็ถือว่ากระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ที่ร้ายไปกว่านั้น หากการทำร้ายร่างกายนั้นรุนแรงจนถึงขั้นสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 โทษก็จะรุนแรงขึ้นอีก เป็นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 200,000 บาท โดยการทำร้ายร่างกายจนสาหัสนั้น ทางกฎหมายก็มีบัญญัติไว้ชัดเจน นั่นคือ

  1. ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท (ประสาทที่รับรู้กลิ่น)
  2. เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
  3. เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
  4. หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
  5. แท้งลูก
  6. จิตพิการอย่างติดตัว
  7. ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
  8. ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน

สอนวัยรุ่นอย่างไร ให้จบปัญหาได้มากกว่าความรุนแรง

เราอาจจะคิดว่าธรรมชาติของวัยรุ่นที่มีความมุทะลุ คึกคะนอง ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา เป็นพัฒนาการช่วงวัยรุ่นที่ใครๆก็เป็นกัน นั่นก็จริงส่วนหนึ่ง แต่การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมนั้นช่วยให้วัยรุ่นหาทางแก้ปัญหาในรูปแบบอื่นได้ ทำให้เขามีทางเลือกในการแก้ปัญหาที่จะใช้สติปัญญามากกว่าความรุนแรง

  • เริ่มจากที่บ้าน ลูกปูก็เดินตามพ่อปูแม่ปู ลูกไม้ก็หล่นไม่ไกลต้น พ่อแม่ต้องไม่แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงต่อลูก เพราะเด็กจะเรียนรู้และเลียนแบบวิธีแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเช่นกัน เวลาเด็กทำผิด มีวิธีจัดการอย่างจริงจัง แต่ไม่ก้าวร้าวรุนแรง ไม่ลงโทษด้วยอารมณ์
  • ฝึกจัดการกับความโกรธ เพราะความโกรธคือสาเหตุของการทำร้ายร่างกายมากกว่าครึ่ง ดังนั้นการฝึกจัดการความโกรธ จะช่วยยืดระยะเวลาในการแก้ปัญหาให้ลูกไม่ไปลงกับการใช้ความรุนแรง เรามีเทคนิคจัดการความโกรธ 4 ข้อมาบอกกัน ดังนี้
  1. คิดว่าเรื่องที่โกรธอยู่นี้สำคัญมากน้อยแค่ไหน 
  2. ให้ถามตัวเองว่า ถ้าเราตอบโต้อะไรลงไปทันทีตามความโกรธ จะเกิดอะไรขึ้น 
  3. ให้ลองถามตัวเองว่า เราได้เคยทำแบบนี้กับคนอื่นไหม? 
  4. ลองถามตัวเองว่า เพราะทำไมคนอื่น จึงทำเช่นนี้กับเรา ให้ลองคิดแบบมีเหตุมีผลว่าเขาอาจมีความจำเป็นจึงทำเช่นนั้น 
  5. การถามตัวเอง จะช่วยประวิงเวลา ทบทวนตัวเอง ทำให้ใจเย็นลง ตั้งสติได้

เพราะการ “ทำร้ายร่างกาย” ไม่ได้จบแค่ค่าปรับ แต่อาจจะทำให้ต้องโทษที่ทำให้วัยรุ่นคนหนึ่งต้องเสียอนาคตได้ การตั้งสติและเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยสติ ด้วยการใช้เหตุผลเท่านั้นจึงจะผ่านไปได้

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

อาชีพที่เป็นที่ต้องการในอนาคต
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
2:00 ชั่วโมง

อยากขายของออนไลน์เริ่มขายที่ไหนดี?

ขายของออนไลน์เป็นอาชีพที่เริ่มไม่ยากทำเป็นอาชีพเสริมได้ หลายคนประสบความสำเร็จจนสามารถลาออกจากงานประจำ เพราะเห็นข้อ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
อยากขายของออนไลน์เริ่มขายที่ไหนดี?
Starfish Academy

อยากขายของออนไลน์เริ่มขายที่ไหนดี?

Starfish Academy
2327 ผู้เรียน
อาชีพที่เป็นที่ต้องการในอนาคต
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ
basic
2:00 ชั่วโมง

ทำสิ่งที่ชอบ สร้างอาชีพที่ใช่

เชื่อว่าหลายๆ คนอยากสร้างอาชีพจากสิ่งที่ชอบและถนัด และนำสิ่งที่เรียนมาต่อยอดเป็นอาชีพที่ใช่สำหรับตัวเอง แต่ปัญหาของแต่ละคนอยู่ ...

Starfish Future Labz
Starfish Future Labz
ทำสิ่งที่ชอบ สร้างอาชีพที่ใช่
Starfish Future Labz

ทำสิ่งที่ชอบ สร้างอาชีพที่ใช่

Starfish Future Labz
การศึกษาในอนาคต
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
2:00 ชั่วโมง

How to ปรับตัวจากมัธยมเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

จุดเปลี่ยนครั้งนึงของเด็กวัยเรียน คงเป็นการเปลี่ยนจากเด็กนักเรียนสู่การเป็นนิสิตนักศึกษา การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ใช้ชีวิตใ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
How to ปรับตัวจากมัธยมเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
Starfish Academy

How to ปรับตัวจากมัธยมเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

Starfish Academy
ทักษะสําคัญแห่งโลกอนาคต
ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การรู้จักตนเอง
basic
2:00 ชั่วโมง

How to วิธีการพัฒนาและรู้จักตนเอง

การรู้จักตัวตนที่เป็นตัวเราจริงๆ รู้ว่าเราเป็นใครและอยากทำอะไร ก็จะส่งผลให้เรามีความมั่นใจ พร้อมค้นหาวิธีพัฒนาตนเองและเข้า ...

Starfish Academy
Starfish Academy
How to วิธีการพัฒนาและรู้จักตนเอง
Starfish Academy

How to วิธีการพัฒนาและรู้จักตนเอง

Starfish Academy

Related Videos

ปรับพฤติกรรมอย่างไร เมื่อลูกฉันกลายเป็นเด็กเกเร
31:53
Starfish Academy

ปรับพฤติกรรมอย่างไร เมื่อลูกฉันกลายเป็นเด็กเกเร

Starfish Academy
980 views • 2 ปีที่แล้ว
ปรับพฤติกรรมอย่างไร เมื่อลูกฉันกลายเป็นเด็กเกเร
แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต
24:40
Starfish Academy

แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต

Starfish Academy
1336 views • 2 ปีที่แล้ว
แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต
เด็กจบใหม่เผชิญโลกอย่างไร? ในยุคโควิด
06:01
Starfish Academy

เด็กจบใหม่เผชิญโลกอย่างไร? ในยุคโควิด

Starfish Academy
148 views • 3 ปีที่แล้ว
เด็กจบใหม่เผชิญโลกอย่างไร? ในยุคโควิด
สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต
05:59
Starfish Academy

สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต

Starfish Academy
211 views • 3 ปีที่แล้ว
สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต