เบื่อตามงานนักเรียน ? นักเรียนไม่ส่งงานสักที
ก่อนอื่นจะต้องตั้งคำถามว่า ‘เพราะอะไรนักเรียนถึงไม่ส่งงาน หรือทำงานที่เราให้ไว้ไม่สำเร็จ?’
แล้วคุณครูจะมีตัวช่วยอะไรบ้าง ที่จะทำให้นักเรียนกลับมาอยู่ในลู่ทางของการทำงานให้สำเร็จ ?
วันนี้ Starfish ชวนอ่าน 8 วิธีฝึกให้นักเรียนมุ่งมั่นทำงานจนสำเร็จ เพื่อคุณครูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยตามงานกันนะคะ
1. ฝึกให้นักเรียนจดจ่อ ผ่านการตั้งเป้าหมายส่วนตัวของนักเรียนรายบุคคล
กลวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือการที่คุณครูให้การบ้าน หรืองานตามความสนใจส่วนตัว และตรงกับเป้าหมายส่วนตัวของนักเรียน โดยการเริ่มให้นักเรียนแลกเปลี่ยนเป้าหมาย หรือสิ่งที่อยากทำกับเพื่อนในกลุ่ม แล้วปล่อยให้นักเรียนลงมือทำงาน อาจจะมีนักเรียนบางคนที่หลุดโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อย ถ้าหากนักเรียนมีเป้าหมายในงานของตัวเองชัดเจน
2. ฝึกให้นักเรียนจดจ่อ ผ่านการตั้งนาฬิกาจับเวลาเพื่อนับถอยหลัง
นักเรียนจะมีทักษะการจัดเวลาได้ ต้องตระหนักรู้และเข้าใจเรื่องเวลาที่นักเรียนจะสูญเสียไป ดังนั้นการตั้งนาฬิกาจับเวลา เป็นวิธีการที่มีประโยชน์เสมอ ใช้ได้ทั้งกับเด็กเล็กและเด็กโต การจับเวลานับถอยหลังจะช่วยให้นักเรียนรู้ว่าเหลือเวลาเท่าไหร่ในการจัดการงานแต่ละชิ้น และวิธีนี้ช่วยให้กระตุ้นนักเรียนให้จดจ่อได้ดีเลยทีเดียว
3. หาคู่หู เพื่อการรับผิดชอบงานร่วมกัน
บ่อยครั้งที่ผู้ใหญ่อย่างเราเองก็ต้องมีเพื่อนร่วมชะตากรรมในการทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ เช่น การตั้งใจที่จะลดน้ำหนักให้ได้ เพราะการมีเพื่อนร่วมชะตากรรม หรือมีเป้าหมายเดียวกัน จะช่วยทำให้สิ่งที่ตั้งใจมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น ลองกลับมาสู่ห้องเรียน สิ่งที่คุณครูต้องทำคือ นักเรียนเลือกเพื่อน 1 คน ซึ่งคุณครูจะต้องชี้แจงบทบาทหน้าที่ของการเป็น ‘คู่หู’ ว่า คู่หู จะต้องทำหน้าที่คอยเช็กอิน และติดตามการทำงานของกันและกันจนกว่างานจะสำเร็จ
4. มีช่วงเวลาที่ให้นักเรียนได้ ‘พักเบรก’ ที่ชัดเจน
สร้างกฎกติกาในการพักเบรกในห้องเรียนให้ชัดเจน เช่น การปล่อยให้นักเรียนได้หยุดพักจากการเรียน แล้วรีบกลับมาสู่โหมดทำงานต่อให้ไว เพื่อให้สมองของนักเรียนได้พัก ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนๆ เป็นต้น
5. ฝึกให้นักเรียนจดจ่อ ผ่านการทำงานแบบโปรเจกต์
การฝึกให้นักเรียนทำงานแบบโปรเจกต์ จะช่วยให้นักเรียนเห็น Timeline หรือระยะทั้งหมดของการทำงานชิ้นหนึ่งให้สำเร็จ คุณครูมีหน้าที่สอบถาม หรือบอกความคาดหวังว่า โปรเจกต์นี้ควรเสร็จเมื่อไหร่ และให้นักเรียนลองแตกย่อยสิ่งที่ต้องทำเป็นรายสัปดาห์ หรือรายวัน และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ถูกต้อง ซึ่งอาจจะมีบ้างที่นักเรียนบางคนหลุดจาก Timeline ที่ตั้งใจไว้ แต่อย่างน้อยวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณครูติดตามความก้าวหน้าในงานของนักเรียนได้
6. ใช้วิธี ‘ASK 3, ASK ME’
บางครั้งการที่นักเรียนไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ เพราะว่านักเรียนอาจจะไม่เข้าใจคำชี้แจงของงาน และด้วยความที่มีนักเรียนหลายคน อาจทำให้คุณครูไม่สามารถตอบคำถามได้หมด ดังนั้นลองใช้วิธี ASK 3, ASK ME คือ การให้นักเรียนที่กำลังติดปัญหาในการทำงานถามเพื่อน 3 คน ซึ่งเป็นคนที่รู้วิธีการทำงานในขั้นตอนต่อไป และหลังจากนั้นก็ค่อยมาถามครู ถ้าเพื่อนทั้ง 3 คน ยังไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ วิธีการนี้จะช่วยแก้ปัญหาและลดระยะในการทำงานของคุณครูด้วย และอาจเป็นวิธีการที่ช่วยตรวจสอบว่าคำชี้แจงของคุณครูนั้นชัดเจนหรือไม่
7. แจก Checklist ให้นักเรียน
การแจก Checklist หรือกระบวนการทำงานในแต่ละขั้นตอนให้กับนักเรียน ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้นักเรียนเห็นความก้าวหน้าในการทำงานของตัวเองได้ เพราะนักเรียนหลายคนที่ทำงานไม่สำเร็จ อาจเป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของกระบวนการทำงานทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าคุณครูแจก Checklist ให้นักเรียน อาจจะในรูปแบบของกระดาษ หรือติดบนบอร์ดผนังห้อง ก็จะช่วยได้
8. มีช่วงเวลาติดตามงานนักเรียนชัดเจน และทำอย่างเป็นประจำ
หากคุณครูออกแบบห้องเรียนที่มีช่วงเวลาในการติดตามงานที่ชัดเจน เช่น อาจจะใช้เวลาในแต่คาบเรียนประมาณ 1 นาที เพื่อติดตามงานของแต่ละคน หรืออาจให้นักเรียนนัดวันมา โดยใช้คำถามสั้นประมาณ 2 คำถาม เช่น ‘นักเรียนทำอะไรไปบ้างในสัปดาห์นี้’ และ ‘นักเรียนจะต้องทำอะไรต่อไป’ และอย่าลืมสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับนักเรียนสำหรับช่วงเวลาในการติดตามงานนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันมากเกินไป
แปลและเรียบเรียงจาก
Moss. (2017). 8 No-Fail Ideas for Keeping Kids on Task. bit.ly/3B0R9XX
Related Courses
การพัฒนาทักษะการเขียน
ในคอร์สนี้จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการสอนเขียนสำหรับผู้เรียนประถมศึกษา ระดับชั้น ป.1- ป.6 โดยได้ยกตัวอย่างปัญหาการเขียนข ...



Micro Learning การเรียนรู้แบบพอดีคำ
ฉีกกฏการเรียนการสอนแบบเดิมด้วยเทรนด์การเรียนรู้แนวใหม่แบบสั้น ง่าย ได้ความรู้ กับเทคนิคการสอนแบบพอดีคำ เพื่อลดภาระและ ...



คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...



คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ฉากทัศน์เป็นฐาน ทำให้นักเรียน เรียนรู้ผ่านสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับความจริง และช่วยพัฒนาทักษะในการทำ ...



Related Videos


ฝ่าประเด็นท้าทายผู้อำนวยการผู้สร้างโอกาสทางการศึกษา
![Starfish Country Home School Foundation [ENG]](https://img.youtube.com/vi/eeT-qLyd87U/mqdefault.jpg)

Starfish Country Home School Foundation [ENG]


TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข

