ลูกอายุเท่าไหร่ต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง

เรื่องของวัคซีนถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กๆ ซึ่งวัคซีนก็มีเยอะแยะมากมายจนพ่อแม่อย่างเราๆ เรียกว่าจำแทบจะไม่หมด ตาลายกันเลยทีเดียว แต่ถึงยังไงก็ตามคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องทราบไว้เพื่อเจ้าตัวเล็กนะคะ

ซึ่งการฉีดวัคซีนของเด็กๆ ก็ต้องเป็นไปตามแผนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ ซึ่งมีมากมาย ซึ่งแต่ละช่วงอายุก็ต้องฉีดวัคซีนที่ต่างกันด้วย วันนี้ทางผู้เขียนจึงได้รวบรวมวัคซีนพื้นฐาน ที่เจ้าตัวเล็กต้องฉีดในแต่ละช่วงอายุมาให้คุณพ่อคุณแม่กัน จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

มาดูวัคซีนพื้นฐานกันก่อนคะ

1. วัคซีนวัณโรค (BCG)

วัคซีนตัวนี้คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะให้เขาได้รับตั้งแต่แรกเกิดเลย ซึ่งตัวนี้จะฉีดบริเวณไหล่ซ้าย ซึ่งปกติโรงพยาบาลจะฉีดให้ในช่วงเด็กๆ อยู่ในวัยทารกก่อนกลับบ้านนั่นเอง

2. วัคซีนตับอักเสบบี (HBV)

สำหรับวัคซีนตัวนี้ เด็กๆ จะต้องได้รับทั้งหมด 3 เข็ม โดยฉีดเข็มแรกตั้งแต่แรกเกิดกันเลย ส่วนเข็มที่สองจะฉีดได้ก็ต่อเมื่อเด็กๆ อายุครบ 1 เดือนเสียก่อน และเข็มสุดท้ายก็จะฉีดได้เมื่อเด็กๆ อายุครบ 6 เดือน นั่นเองค่ะ

3. วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน (DPT)

วัคซีนตัวนี้จะฉีดเป็นชุดๆ โดยชุดแรกจะฉีด 3 ครั้ง เมื่อเด็กๆ อายุได้ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องพาเด็กๆ ไปฉีดกันอีก เพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน และอายุ 4-6 ปี และมีการฉีดเฉพาะ คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน สำหรับเด็กโตอีกด้วยค่ะ

4. วัคซีนโปลิโอ

เด็กๆ จะได้รับการฉีดร่วมกับวัคซีนที่เป็นรูปแบบของการกิน ซึ่งการหยอดวัคซีนโปลิโอรูปแบบกินจะมีจำนวน 5 ครั้ง เมื่ออายุได้ 2,4,6 เดือน , 1 ปี 6 เดือน และ 4 ปี และต้องมีการได้รับวัคซีนโปลิโอรูปแบบฉีดอีก 1 ครั้ง เมื่อเด็กๆ อายุได้ 4 เดือนค่ะ

5. วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม (MMR) หรือวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE)

เจ้าวัคซีนตัวนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องพาเด็กๆ ไปฉีดตามช่วงอายุค่ะ นั่นก็คือ 1 ปี และอายุ 2 ปี 6 เดือน

6. วัคซีนไข้หวัดใหญ่

สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่นี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องจำไว้ให้ดีเลยว่าควรจะพาเด็กๆ ไปฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน - 18 ปี โดยปีแรกจะมีการฉีด 2 เข็มด้วยกัน แต่จะมีการเว้นระยะห่างกัน 4 สัปดาห์ถึงจะมีการฉีดเข็มต่อไปค่ะ

7. วัคซีนเอชพีวี (HPV)

วัคซีนตัวนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กๆ ไปฉีดตั้งแต่เขาอายุ 9 ปีขึ้นไปเลยค่ะ วัคซีนตัวนี้จะป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70-90% เลยทีเดียวนะคะ

สำหรับวัคซีนอื่น ที่นอกเหนือจากข้างต้นที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีวัคซีนที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆ ไปฉีดเพื่อเสริมภูมิต้านทานด้วย ซึ่งทางคุณหมอก็ได้แนะนำไว้ดังนี้ค่ะ

1. วัคซีนโรตาไวรัส : ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 2 และ 4 เดือน
2. วัคซีนนิวโมคอคคัส (ป้องกันปอดอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ) : ฉีดได้ช่วงอายุ 2 , 4 และ 6 เดือน จากนั้นต้องฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 1 ปี - 1 ปี 3 เดือน
3. วัคซีนฮิบ หรือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย (Haemophilus influenzae type b Vaccine) : เป็นวัคซีนรวม 1 เข็ม ที่สามารถป้องกันได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็น โรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี เยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ โดยจะมีการฉีด 3 ครั้ง ซึ่งอายุที่ฉีดได้ก็ตั้งแต่อายุ 2 , 4 และ 6 เดือนค่ะ
4. วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส : ฉีดตามช่วงอายุได้ตั้งแต่ 2 ปีครั้ง และอีกทีตอนอายุ 4-6 ปี
5. วัคซีนตับอักเสบเอ : สามารถฉีดได้ 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไปเลยค่ะ
6. วัคซีนไข้เลือดออก : สามารถฉีดในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป โดยฉีดเว้นระยะ 6 เดือนและ 12 เดือน จำนวน 3 ครั้ง

การฉีดวัคซีนก็เป็นเรื่องสำคัญเลยที่พ่อแม่ไม่ควรละเลยนะคะ ยิ่งการเลื่อนแพทย์ยิ่งไม่ควรเลย เพราะมันอาจจะทำให้เด็กๆ ไม่ได้รับวัคซีนไม่ครบเอาได้ค่ะ แถมยังทำให้เด็กๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ด้วย ทางที่ดีเราเองต้องใส่ใจและไปตามวันครบกำหนดจะได้ผลดีที่สุดค่ะ เพื่อสุขภาพของเจ้าตัวเล็กของเรานะคะ

อ้างอิงจาก : www.phyathai.com/article_detail/3282/th/